เมืองกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศแห่งขุนเขาหิมาลัย เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ซึ่งถือได้ว่ากาฐมาณฑุเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าสนใจมากเมืองหนึ่งของโลก เนื่องจากมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าคุณเดินทางมาเยือนกาฐมาณฑุอย่างคุ้มค่า เราได้ทำลิสต์สถานที่ที่ต้องห้ามพลาดมาดังนี้
- 1. จตุรัสภัคตะปูร์ดูร์บาร์ (Bhaktapur Durbar Square)
- 2. จตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square)
- 3. จตุรัสปาฏันดูร์บาร์ (Patan Durbar Square)
- 4. เจดีย์โพธินารถ (Boudanath)
- 5. เจดีย์สวยัมภูนารถ (Swayambhunath)
- 6. เมืองกีรติปูร์ (Kirtipur)
- 7. วัดปชุปฏินาฎ (Pashupatinath Temple)
- 8. นาการ์กอต (Nagarkot)
- 9. ร้านอาหารประจำชาติเนปาล Dal Bhat
- 10. ถนนธาเมล (Thamel)
1. จตุรัสภัคตะปูร์ดูร์บาร์ (Bhaktapur Durbar Square)
จตุรัสนี้เป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเนปาล ตั้งแต่ยุคกลาง ผู้คนที่ยังอาศัยอยู่ในจตุรัสนี้ส่วนมากเป็นชาวเนวารีซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของเนปาล สถานที่สำคัญในจตุรัสนี้ได้แก่ วัดเนียตาโปลา (Nyatapola Temple) รูปปั้นกษัตริย์มัลละ (Statue of King Bhupatindra Malla) หน้าต่างนกยูง (Peacock Window) ประตูทองคำ (Golden Gate) และพระราชวัง 55 พระแกล (Fifty-five window palace)
วัดเนียตาโปลาถือเป็นวัดที่มียอดใหญ่และสูงที่สุดในเนปาล ซึ่งมีความสูงถึงห้าชั้น และนอกจากนั้นยังมีวัดไภราพนาถ (Bhairab Nath Temple) ซึ่งเป็นตัวแทนของร่างอวตารที่ดุร้ายของพระศิวะ พระไภรวะ นอกจากนั้นในบริเวณจตุรัสยังมีร้านอาหารท้องถิ่นมากมายที่คุณสามารถลิ้มลองอาหารสูตรดั้งเดิมของชาวเนวารีได้ สิ่งที่แนะนำให้ลิ้มลองคือ Juju Dhau เป็นโยเกิร์ตสดที่โด่งดังมากในย่านนี้
พิพิธภัณฑ์แห่งจตุรัสภัคตะปูร์ดูร์บาร์
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ (National Art Gallery) เป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากในการมาเยี่ยมเยือน ภายในมีชิ้นงานล้ำค่าที่เป็นศิลปะในยุคกลาง ทั้งภาพวาด งานแกะสลักบนเครื่องเงิน ทองเหลือง แผ่นไม้ สถาปัตยกรรม และต้นฉบับทางประวัติศาสตร์มากมาย ส่วนมากจะเป็นงานสะสมตั้งแต่สมัยของกษัตริย์มัลละ
การเดินทางไปจตุรัสภัคตะปูร์ดูร์บาร์ (จากถนนธาเมล)
คุณสามารถไปขึ้นรถประจำทางได้จากป้ายรถเมล์ภัคตะปูร์ (Bhaktapur Bus Park) ซึ่งอยู่ก่อนถึงป้ายรถเมล์รัตนะ โดยรถประจำทางสายนี้จะหยุดที่ใกล้ทางเข้าจตุรัส ราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 25 รูปี และ 50 รูปีสำหรับชาวต่างชาติ และใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร หรือคุณสามารถนั่งแท็กซี่ไปได้ ค่าแท็กซี่ 900-1500 รูปีโดยประมาณ หรือคุณสามารถจองรถพร้อมคนขับจากบริษัททัวร์ที่มีอยู่มากมายในธาเมลได้เช่นกัน
ค่าธรรมเนียมเข้าชมจตุรัสภัคตะปูร์ดูร์บาร์
ชาวต่างชาติ: 1500 รูปี
นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ SAARC: 500 รูปี
นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน: 500 รูปี
2. จตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square)
จตุรัสนี้มีอีกชื่อเรียกว่าพระราชวังหนุมานโดกา เป็นจตุรัสที่มีความสำคัญที่สุดในเมืองกาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินจากถนนธาเมลมาได้โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จตุรัสนี้มีทั้งน้ำพุ รูปปั้นโบราณ สระน้ำ ลานกว้าง
สถานที่สำคัญในจตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์มีดังนี้ วังกุมารี (Kumari Bahal)
- วัดมหาเทวะ (Mahadev Temple)
- วิหารพระศิวะ-พระนางปราวตี (Shiva Parvati Temple)
- วัดเทวีบัควาติ (Bhagwati Temple)
- พระราชวังเก่า (Old palace)
- วัดเทวีสรัสวตี (Saraswoti temple)
- วัดพระกฤษณะ (Krishna Octangular Temple)
- กลองยักษ์ (Big drums)
- กาฬ ไภราพ (Kal Bhairav)
- วัดจากานนาถ (Jagannath Temple)
- วัดตาเลจู (Taleju Temple)
วังกุมารี เป็นตึกสามชั้นที่พำนักของกุมารี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพธิดาที่สถิตย์อยู่ในร่างของเด็กหญิงชาวฮินดูที่มีคุณลักษณะครบถ้วน งานศิลปะ งานแกะสลักหิน งานสถาปัตยกรรมในจตุรัสนี้เชื่อว่ามีมาตั้งแต่ช่วงก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้จตุรัสนี้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว
พิพิธภัณฑ์แห่งจตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์
พระราชวังหนุมานโดกาเป็นพระราชวังเก่าซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ราชวงศ์ Shah และ Malla จวบจนกระทั่งศตวรรษที่ 19 พระราชวังถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์กษัตริย์ตรีภูวัน (King Tribhuwan Memorial Museum) และพิพิธภัณฑ์มเหนดรา (Mahendra Museum)
การเดินทางไปจตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ (จากถนนธาเมล)
สามารถเดินมาจากถนนธาเมลได้ โดยใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที
ค่าธรรมเนียมเข้าชมจตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์
ชาวต่างชาติ: 1000 รูปี
นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ SAARC: 150 รูปี
3. จตุรัสปาฏันดูร์บาร์ (Patan Durbar Square)
จตุรัสปาฏัน มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงามและรอบล้อมไปด้วยวัดวังต่างๆซึ่งเป็นที่ประทับของเทพเจ้าหลายองค์ จตุรัสนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลลิตปูร์ บนที่ราบเลียบแม่น้ำบักมาติ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจตุรัสนี้คือ Hiranya Varna, Mahavihar, วัด Mahaboudha, วัดกฤษณะ และพิพิธภัณฑ์ปาฏัน วัดกฤษณะเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์หนึ่งเดียวของเนปาลที่มีเทวสถาน 21 แห่งที่ทำมาจากหิน เมืองปาฏันนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาสามเมืองหลักในกาฐมาณฑ
พิพิธภัณฑ์จตุรัสปาฏันดูร์บาร์ (Patan Durbar Square Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ Birendra Bir Bikram Shah ในปี 1997 ภายในพิพิธภัณฑ์มีโบราณวัตถุที่ทำจากเครื่องเงินและโบราณวัตถุทางศาสนา ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในเอเชีย
การเดินทางไปจตุรัสปาฏันดูร์บาร์ (จากถนนธาเมล)
สามารถนั่งรถประจำทางจากป้ายรถเมล์รัตนะ (Ratna bus park) ไปถึงหน้าทางเข้าจตุรัส ค่าโดยสารรถประจำทาง 20 รูปี ในบางครั้งชาวต่างชาติอาจจะโดนเก็บค่าโดยสาร 50 รูปี และใช้เวลาเดินทางโดยรถประจำทางประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร หรือคุณสามารถนั่งแท็กซี่ไปได้ ค่าแท็กซี่ 400 รูปีโดยประมาณ หรือคุณสามารถจองรถพร้อมคนขับจากบริษัททัวร์ที่มีอยู่มากมายในธาเมลได้เช่นกัน
ค่าธรรมเนียมเข้าชมจตุรัสปาฏันดูร์บาร์
ชาวต่างชาติ: 1000 รูปี
นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ SAARC: 250 รูปี
4. เจดีย์โพธินารถ (Boudanath)
เจดีย์โพธินารถตั้งอยู่ในเมืองกาฐมาณฑุ เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวพุทธในเนปาล เจดีย์โพธินารถเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกยูเนสโกในเมืองกาฐมาณฑุ ในบริเวณเจดีย์วัด วิหาร ร้านค้าและร้านอาหารสไตล์ทิเบต เจดีย์พุทธแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 1600 ปีที่ผ่านมา สถาปัตยกรรมมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีการใช้ทองจำนวนมากในการสร้าง
เจดีย์นี้เป็นเจดีย์ทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูงสูงถึง 38 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง 100 เมตร ทั้งสี่ด้านของเจดีย์มีดวงตาพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการมีอยู่ในทุกที่และการมีสติ ผู้มาแสวงบุญชาวพุทธมักจะเดินจงกรมเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา
การเดินทางไปเจดีย์โพธินารถ (จากถนนธาเมล)
ใช้เวลาขับรถจากใจกลางกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร ค่าแท็กซี่ 400 รูปีโดยประมาณ หรือคุณสามารถจองรถพร้อมคนขับจากบริษัททัวร์ที่มีอยู่มากมายในธาเมลได้เช่นกัน
ค่าธรรมเนียมเข้าชมเจดีย์สวยัมภูนารถ
ชาวต่างชาติ: 400 รูปี
นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ SAARC: 100 รูปี
5. เจดีย์สวยัมภูนารถ (Swayambhunath)
เจดีย์สวยัมภูนารถหรือนักท่องเที่ยวนิยมเรียกกันว่าวัดลิง เป็นสถานที่ทางศาสนาที่เก่าแก่ ตั้งอยู่บนเนินเขาในเมืองกาฐมาณฑุ ประมาณ 2 กิโลเมตรทางตะวันตกจากใจกลางเมือง การที่ตั้งอยู่บนจุดที่สูงทำให้สามารถเห็นวิวเมืองและวิวเขาหิมาลัยที่สวยงามได้จากวัดแห่งนี้ ในทุกๆเช้าจะมีผู้ที่ศรัทธาในศาสนาเดินขึ้นบันไดกว่า 365 ขั้นเพื่อขึ้นถึงจุดสูงสุดของตัววัดและเดินเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิการอบเจดีย์แห่งนี้
ดวงตาแห่งสวยัมภูนารถ
เจดีย์แห่งนี้เปรียบเสมือนมงกุฎทางสถาปัตยกรรมแห่งเมืองกาฐมาณฑุ ประกอบด้วยเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวเป็นฐานและครอบด้วยรูปทรงลูกบาศก์ที่ถูกวาดลวดลายเป็นดวงตาแห่งพระพุทธที่มองไปทั้งสี่ทิศทาง ล้อมรอบไปด้วยวงล้ออธิษฐานรูปวาดของทวยเทพ เทวดาต่างๆมากมาย
การเดินทางไปเจดีย์สวยัมภูนารถ (จากถนนธาเมล)
ใช้เวลาขับรถประมาณ 10-15 นาทีจากธาเมล ค่าแท็กซี่ 400 รูปีโดยประมาณ หรือคุณสามารถจองรถพร้อมคนขับจากบริษัททัวร์ที่มีอยู่มากมายในธาเมลได้เช่นกัน
ค่าธรรมเนียมเข้าชมเจดีย์สวยัมภูนารถ
ชาวต่างชาติ: 200 รูปี
นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ SAARC: 50 รูปี
6. เมืองกีรติปูร์ (Kirtipur)
เมืองกีรติปูร์ตั้งอยู่ 8 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้จากเมืองกาฐมาณฑุ ซึ่งเป็นเมืองดั้งเดิมของชาวเนวารี และยังคงขนบธรรมเนียมประเพณีที่เก่าแก่ของชาวเนปาลเอาไว้อย่างเหนียวแน่น บรรยากาศสุดคลาสสิคบนถนนแคบๆที่ปูด้วยอิฐแดงและรายล้อมไปด้วยบ้านที่สร้างจากอิฐ สัมผัสชีวิตของชาวท้องถิ่นผู้ที่รักษาวัฒนธรรมความเชื่อดั้งเดิมไว้จนกระทั่งวันนี้
สถานที่ที่ควรไปเยี่ยมเยือนในเมืองกีรติปูร์
– วัดตรีรัตนะ (Tri Ratna Temple)
วัดที่สร้างจากอิฐ เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระกฤษณะ โดยมีทั้งชาวฮินดูและชาวพุทธแวะเวียนมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดแห่งนี้ มีงานแกะสลักที่สวยงามมากมายในวัด
– วัง Dev Pukku
วังนี้เป็นวังโบราณ มีบ่อน้ำอยู่ในบริเวณพระราชวัง และเป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์มากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองกีรติปูร์ และยังเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองนี้ ซึ่งมาจากน้ำบาดาล
– วัด Bagh Bhairab
วัดนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองกีรติปูร์ รูปปั้นเด่นของที่นี่คือรูปกายของพระไภรวะในร่างของเสือ และยังมีอาวุธที่ชาวกอร์ข่าเคยใช้งานตั้งโชว์อยู่ที่แห่งนี้เช่นกัน
– วัด Uma Maheshwar
วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1663 หน้าวัดมีรูปปั้นช้างพร้อมด้วยอานช้างที่ทำจากเหล็กอย่างสวยงาม
การเดินทางไปเมืองกีรติปูร์ (จากถนนธาเมล)
เดินทางโดยรถประจำทาง โดยขึ้นจากป้ายรถเมล์ที่ชื่อว่าป้ายรัตนะ (Ratna) และลงที่ป้ายนายา บาซาร์ (Naya Bazaar) ซึ่งจะเป็นจุดลงรถหน้าบันไดทางขึ้นไปยังเมืองโบราณกีรติปูร์แห่งนี้ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
ค่าธรรมเนียมเข้าชมเมืองกีรติปูร์
ค่าเข้าฟรี
7. วัดปชุปฏินาฎ (Pashupatinath Temple)
วัดปชุปฏินาฎเป็น 1 ใน 7 แหล่งมรดกโลกยูเนสโกในกาฐมาณฑุและเป็น 1 ใน 4 สถานที่ทางศาสนาที่มีความสำคัญที่สุดในเอเชีย สำหรับชาวฮินดูที่บูชาพระศิวะ ผู้มาเยือนสถานที่แห่งนี้จะรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ทางศาสนาผสมผสานกับวัฒนธรรมโบราณที่รักษากันมายาวนาน ตัววัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำบักมาติ ในฝั่งตะวันออกของเมืองกาฐมาณฑุ เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาลตั้งแต่ศตวรรษที่ 5
ภายในวัด จะประกอบด้วยตัววัดหลัก และมีวัดย่อยๆอีกหลายวัดในบริเวณเดียวกัน ทั้งวัดพุทธและวัดฮินดู เวลาเข้าเยี่ยมชมสถานที่คือ 4.00 – 21.00 น. อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในตัววัดหลัก ซึ่งสงวนไว้ให้กับชาวฮินดูเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในบริเวณวัดได้ทั้งหมด และสามารถเข้าในตัววัดอื่นๆในบริเวณเดียวกันได้ และยังสามารถดูพิธีศพของชาวฮินดูได้ในบริเวณริมแม่น้ำในตัววัด
ความสำคัญของวัดปชุปฏินาฎ
วัดปชุปฏินาฎเป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองกาฐมาณฑุ ที่ซึ่งเป็นสถานประกอบพิธีกรรมของชาวฮินดู และเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวัฒนธรรมของชาวฮินดูที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ความตายและชีวิตหลังความตาย วัดปชุปฏินาฎเป็นหนึ่งในสี่วัดฮินดูที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่นับถือพระศิวะ เชื่อกันว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคต้นของอารยธรรมฮินดูตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 และภายหลังถูกบูรณะปรับปรุงโดยกษัตริย์มัลละ
พิธีอารตี (Aarati)
พิธีกรรมที่โด่งดังที่สุดที่ประกอบขึ้นเป็นประจำในวัดปชุปฏินาฎนี้คือพิธีอารตี แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์บักมาติเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางพื้นที่ของวัดนี้ แบ่งพื้นที่วัดออกเป็นสองฝั่ง พิธีอารตีเป็นพิธีบูชาพระศิวะ นำพิธีโดยพระฮินดูสามรูปถือตะเกียงไฟโบกวนเป็นวงกลมพร้อมกล่าวบทสวดฮินดู และพร้อมกันนั้นชาวฮินดูผู้ร่วมพิธีกรรมก็จะเปล่งคำร้อง Bhajan ไปพร้อมๆกัน ซึ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบดูขลังอย่างยิ่ง พิธีนี้จะมีขึ้นทุกเย็นในช่วงเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป
การเดินทางไปวัดปชุปฏินาฎ (จากถนนธาเมล)
ใช้เวลาจากใจกลางเมืองประมาณ 15-25 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร หากคุณเดินทางโดยแท็กซี่ อาจจะโดนเรียกราคาที่สูงกว่าปกติได้ ควรสอบถามราคากลางจากคนท้องถิ่นก่อนการเรียกแท็กซี่ เพื่อที่จะสามารถต่อรองราคาได้ โดยปกติราคาจะประมาณ 250 รูปี
ค่าธรรมเนียมเข้าชมวัดปชุปฏินาฎ
ชาวต่างชาติ: 1000 รูปี
นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ SAARC: 1000 รูปี
8. นาการ์กอต (Nagarkot)
หมู่บ้านบนเขานาการ์กอต ห่างจากเมืองภัคตะปูร์ 14 กิโลเมตร มีความสูง 2200 เมตรจากระดับน้ำทะเล เขานาการ์กอตเป็นสถานที่ที่สวยงาม ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมือง ให้คุณได้เริ่มต้นวันที่สดใส ด้วยวิวภูเขาสุดลูกหูลูกตา เป็นจุดที่เหมาะกับการนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น และยังสามารถไปเทรคเส้นทางสั้นๆได้อีกด้วย ชาวบ้านที่อยู่ในแถบนาการ์กอตมีความเป็นมิตร ใจดี มีจิตใจบริการ
ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เขานาการ์กอต
จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากสำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้น ในวันที่อากาศสดใส คุณสามารถมองเห็นวิวเขาหิมาลัย และอาจเห็นไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ได้เลยทีเดียว วิวเทือกเขาหิมาลัยที่คุณเห็นนั้นเป็นแนวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งรวมถึงเขาเอเวอเรสต์ อันนาปุรณะ ลังตัง และอื่นๆ คุณจะได้เห็นยอดเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะ สะท้อนกับแสงแดดเป็นภาพที่งดงามมาก
เดินทางไปเขานาการ์กอตอย่างไร
คุณสามารถเหมารถจากย่านธาเมลไปได้ในราคาประมาณ 2500 รูปี โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทางประมาณ 30 กว่ากิโลเมตร หรืออีกวิธีคือคุณสามารถจองโรงแรมบนเขานาการ์กอตพร้อมรถรับส่งได้จากบริษัททัวร์ที่มีอยู่มากมายในธาเมล
9. ร้านอาหารประจำชาติเนปาล Dal Bhat
อาหารหลักของชาวเนปาลคือ Dal Bhat หรือข้าวและแกงถั่ว ซึ่งเป็นรสชาติของอาหารดั้งเดิมของเนปาลแท้ๆ ชาวเนปาลส่วนมากรับประทาน Dal Bhat เป็นอาหารหลักกันทุกวัน โดยส่วนประกอบหลักมาจากผลิตผลทางการเกษตรที่เติบโตในเนปาลคือข้าว และถั่วเหลือง เสิร์ฟมาพร้อมกับผัก และแกงต่างๆ มีทั้งแกงไก่ แกงแพะ แกงปลา และหากคุณอยากสัมผัสบรรยากาศการกิน Dal Bhat แบบคนเนปาลแท้ๆ เราขอแนะนำให้ลองใช้มือทานเหมือนกับชาวเนปาลส่วนใหญ่
Dal Bhat Power 24 Hour
“Dal Bhat Power 24 Hour” วลีนี้เป็นวลีเด็ดที่โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเนปาล Dal Bhat เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง และสามารถช่วยให้คุณมีพลังเพียงพอในการเดินทางเทรคกิ้งทั้งวัน ซึ่งอาหารจานนี้เป็นแหล่งพลังงานซึ่งเสิร์ฟจากครัวของชาวเนปาลแท้ๆ และมีสารอาหารครบถ้วน
คุณสามารถไปลิ้มลอง Dal Bhat แบบดั้งเดิมได้จากที่ไหน (Thakali Set)
ร้านแนะนำ: Jimbu Thakali Kitchen, Tangal, Kathmandu
เวลาทำการ: 10.30 – 22.00 ทุกวัน
เมนูแนะนำ: Chicken Dal Bhat Set ชุดแกงไก่ ประกอบด้วยข้าวสวย แกงถั่ว แกงไก่ ผัดผักโขม ผักดองต่างๆ มันฝรั่งผัดคั่ว และโยเกิร์ต
ราคา: 400 รูปีหรือ 120 บาทโดยประมาณ ไม่รวมค่าบริการ 10% และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 13%
10. ถนนธาเมล (Thamel)
ถนนธาเมลเป็นย่านศูนย์รวมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเนปาล เป็นย่านที่มักจะเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเดินทางในเนปาล ในย่านนี้มีทุกสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการ ตั้งแต่เกสท์เฮ้าส์ไปจนถึงโรงแรมห้าดาว บูธขายทัวร์ ร้านขายอุปกรณ์เดินเขา ที่แลกเงิน ร้านขายของชำ ร้านอาหารสตรีทฟู้ด ร้านซักอบรีด ย่านช้อปปิ้ง ร้านเสริมสวย สปา และอื่นๆอีกมากมาย ถนนธาเมลเป็นถนนเล็กๆที่เก่าแก่ ในหลายๆโซนมีการปรับเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินห้ามยานพาหนะเข้า
กิจกรรมในย่านธาเมล
– ช้อปปิ้งอุปกรณ์เดินเขา
ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารท้องถิ่นหรือร้านอาหารสุดหรู ตัวเลือกร้านอาหารบนถนนธาเมลนี้มีให้คุณอย่างไม่จำกัด ร้านอาหารดังในย่านธาเมล เช่น Roadhouse Café, Electric Pagoda, BK’s, OR2K, Hangkook Sarang และอื่นๆ
– สนุกไปกับปาร์ตี้ยามค่ำคืน
ถนนธาเมลเป็นศูนย์รวมของสถานบันเทิงยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นเพลงชิลๆ ดนตรีสด ผับ คลับบาร์ต่างๆ
– สปาและการผ่อนคลาย
หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเทรคกิ้ง คุณสามารถผ่อนคลายไปกับสปา นวด จากุซซี่ ได้จากหลากหลายร้านสปาราคาย่อมเยาในย่านธาเมล